เปลี่ยนการเรียนดนตรีให้ง่ายและสนุกด้วย
Music Gamification Platform
โดยการใช้เกมส์มาสร้างแรงจูงใจให้เด็ก ๆ อยากเรียนรู้

ปฏิวัติรูปแบบการเรียนดนตรีแบบเดิม ก้าวสู่โอกาสแห่งการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี Gamification
หรือการเรียนรู้ผ่านเกมส์ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีกับการเรียนรู้ดนตรีที่สนุกสนาน
ได้รับแรงบันดาลใจ และสามารถมีพัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว และ เป็นธรรมชาติ

Gamification +
Game - Based Learning

“ถ้าลูกหลานเรา ตั้งใจอ่านหนังสือสอบ ตั้งใจซ้อมดนตรี
ให้เหมือนกับที่เค้าเล่นเกมได้ทั้งวันก็คงดี”
หลาย ๆ คนน่าจะเคยคิดแบบนี้

นี่คือ จุดเริ่มต้นของ Notero นวัตกรรม การเรียนดนตรี ที่ปฏิวัติความน่าเบื่อในการซ้อมดนตรี
และช่วยอำนวยความสะดวกครูผู้สอนในการติดตามผลการเรียนของนักเรียน  ประหยัดเวลา
และเห็นผลได้ไว

Notero เป็นการนำ “GAME – BASED LEARNING” มาผสมกับ “GAMIFICATION” 
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเด็ก ๆ อนาคตของชาติ (ของผู้เรียน) 

Game - Based Learning คืออะไร

และต่างกันอย่างไรกับ Gamification ? (Game - Based Learning VS Gamification)

Game - Based Learning คือ

การที่เด็ก (ผู้เรียน) จะได้เรียนรู้ในหัวข้อ หรือ รายวิชาต่าง ๆ ผ่านสื่อประเภทเกม เช่น คุณครูในโรงเรียนที่ USA ใช้เกม Assassin’s Creed ในวิชาประวัติศาสตร์ และ สถาปัตยกรรม และสำหรับ Notero เอง เราเปลี่ยนจาก Music Game ที่เด็ก ๆ คุ้นเคยกัน เช่น Just Dance / Audition / Guitar Hero (เตรียมหาภาพประกอบ) ให้มาเล่นด้วยเครื่องดนตรีจริง ๆ แทน

คนที่เล่นกีต้าร์เป็นอยู่แล้ว

คนที่เล่นกีต้าร์เป็นอยู่แล้ว สามารถมาเล่น Guitar Hero ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร แต่ คนที่เล่น Guitar Hero ไม่สามารถมาเล่นกีต้าร์จริง ๆ ได้เลย ต้องผ่านการเรียนมาก่อน “แล้วทำไมพวกเราไม่ให้เด็ก ๆ เล่นเกมด้วยเครื่องดนตรีจริง ๆ ไปเลยล่ะ”

“แล้วทำไมพวกเราไม่ให้เด็ก ๆ เล่นเกมด้วยเครื่องดนตรีจริง ๆ ไปเลยล่ะ”
นี่แหละ คือ ที่มาของ Notero Game - Based Learning

แล้ว Gamification คืออะไร ?

Gamification

หลาย ๆ คน เข้าใจผิดว่า มันต้องเป็นเกมออนไลน์เท่านั้น จริง ๆ แล้ว Gamification เป็นเพียงตัวสร้างแรงจูงใจให้เด็ก ๆ ทำในพฤติกรรมที่เราต้องการ (สำหรับ Notero แล้ว พวกเราต้องการให้เด็ก ๆ ซ้อมดนตรี)

Gamify + cation

แล้วทำไมเราถึงเรียกว่า Gamification ล่ะ (มาจากคำว่า Gamify ที่แปลว่า ทำให้เป็นเกม) ก็เพราะว่า เหตผลหลัก ๆ ที่ทำให้คนเราติดเกม ก็คือ เกมนั้นมีการให้รางวัลกับเราอยู่เสมอ ทำให้เราอยากเล่นไปเรื่อย ๆ

ยกตัวอย่าง

หลาย ๆ คนอาจจะเคยโดน Gamification กันมาแบบไม่รู้ตัว เช่น ซื้อกาแฟครบ 15 แก้ว แล้วเราจะได้ฟรี 1 แก้ว ทำให้เราอยากจะมาซื้อกาแฟบ่อย ๆ จนครบ 15 แก้ว

ไม่ต้องกลัวว่า Notero จะมาทำให้ลูกหลานของเราติดเกม
เพราะบริษัทระดับโลกอย่าง Microsoft เอง ก็มีการใช้ Gamification
กันในบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน

เพราะแค่จูงใจด้วยรางวัล (Gamification) อย่างเดียว บางทีอาจจะไม่พอ เด็ก ๆ วัยกำลังเรียนรู้ เค้าเบื่อง่าย

เพราะฉะนั้น เราเลยจับพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของเด็ก (สำหรับ Notero คือการซ้อมดนตรี) เอามาทำออกมาเป็นเกมอย่างจริงจังเลย มีการแข่งขัน มีการโชว์คะแนนกัน เหมือนกับ Music Game ที่เด็ก ๆ เค้าคุ้นเคยกัน และสามารถเล่นได้ทั้งวัน และเล่นได้ในระยะยาว ไม่ใช่การเล่นเดี๋ยวเดียวก็เบื่อ แล้วเลิกเล่นในที่สุด

ปัจจุบัน เราได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการเรียนการสอนดนตรีในประเทศไทยร่วมกับคุณครูดนตรี และโรงเรียนในหลายๆพื้นที่ทั้งใน กรุงเทพ และต่างจังหวัด

เด็กๆที่ได้มีโอกาสเรียนดนตรีจากระบบของเรา จะสมารถมีพํฒนาการที่ดี สามารถเรียนรู้ภาษาดนตรี หรือโน๊ตสากล

และสามารต่อยอดต่อไปได้ดวยความมั่นใจ ทั้งทางด้านการเรียนดนตรี หรือนำทักษะที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดในการศึกาาด้าานอื่นๆได้ต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด

ปัจจุบัน เราได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการเรียนการสอนดนตรีในประเทศไทย

ร่วมกับคุณครูดนตรี และโรงเรียนในหลายๆพื้นที่ทั้งใน กรุงเทพ และต่างจังหวัด

เด็กๆที่ได้มีโอกาสเรียนดนจรีจากระบบของเรา จะสมารถมีพํฒนาการที่ดี สามารถเรียนรู้ภาษาดนตรี หรือโน๊ตสากล

และสามารต่อยอดต่อไปได้ดวยความมั่นใจ ทั้งทางด้านการเรียนดนตรี หรือนำทักษะที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดในการศึกาาด้าานอื่นๆได้ต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด

Contact Us